ทุกๆปัญหามีทางออกเสมอ – หาทางออกที่ดีที่สุด ปรึกษาทนายอลิสา

คดีอาญา สามารถประกันตัวโดยไม่ใช้หลักทรัพย์ได้

ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา กฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ต้องหา หรือจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้น ผู้ต้องหา หรือจำเลยย่อมมีสิทธิในการขอประกันตัวตั้งแต่ชั้นตำรวจ ไปจนถึงชั้นศาล แต่ที่ผ่านมาขออนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวก็สร้างภาระให้กับผู้ต้องหา หรือจำเลยในคดีอาญา ทั้งๆที่ผู้ต้องหา หรือจำเลยกฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา แต่หากผู้ต้องหา หรือจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์และยากจน ไม่มีหลักทรัพย์ที่จะยื่นขอประกันตัวก็ย่อมสร้างภาระความลำบากให้แก่ผู้ต้องหา หรือจำเลย และครอบครัว ต้องไปหาเช่าหลักทรัพย์เพื่อมาประกันตัว หากไม่มีแม้แต่เงินที่จะไปเช่าหลักทรัพย์ ในระหว่างที่มีการดำเนินคดีอาญา ผู้ต้องหา หรือจำเลยก็จะต้องอยู่ในเรือนจำเพื่อต่อสู้คดี จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา . วันนี้ทนายจะขอนำเสนอกฎหมายที่ให้สิทธิผู้ต้องหา หรือจำเลยสามารถประกันตัวโดยไม่ใช้หลักทรัพย์ได้ มีเงื่อนไขดังนี้ 1. ดคีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี 2. การอนุญาตให้ประกันตัวนั้น เป็นดุลพินิจของศาล 3. ในกรณีที่ต้องมีประกันโดยใช้หลักทรัพย์ กำหนดให้มีวงเงินประกันตัวไม่เกิน 200,000 บาท เว้นแต่ มีเหตุสมควรที่จะสั่งเป็นอย่างอื่น ก็ให้ระบุเหตุน้ันไว้โดยชัดแจ้ง” . กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประกาศข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ซึ่งประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการเรียกประกัน หรือหลักประกันในการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา […]

ก่อนจะจดทะเบียนสมรส จำเป็นต้องมีสัญญาก่อนสมรสไหม

ก่อนจะจดทะเบียนสมรส สามีภรรยาสามารถทำสัญญาก่อนสมรส โดยในสัญญาก่อนสมรสนั้น กฎหมายกำหนดให้ต้องมีหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1.ตามกฎหมายไทยนั้น สัญญาก่อนสมรสนั้นสามารถตกลงกันได้แต่เพียงทรัพย์สินระหว่างสามี หรือภรรยาเท่านั้น ไม่สามารถที่จะตกลงในเรื่องอื่นๆได้ และข้อตกลงในสัญญาก่อนสมรสจะต้องไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน 2.นอกจากนี้สัญญาก่อนสมรสนั้น จะต้องจดแจ้งข้อตกลงกันเป็นสัญญาก่อนสมรสนั้นไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรส  หรือจะต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สมรสและพยานอย่างน้อยสองคนแนบไว้ท้ายทะเบียนสมรส  และได้จดไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้ มิเช่นนั้นสัญญาก่อนสมรสย่อมตกเป็นโมฆะ                 3.เมื่อสมรสแล้วจะเปลี่ยนแปลงเพิกถอนสัญญาก่อนสมรสนั้นไม่ได้  นอกจากจะได้รับอนุญาตจากศาล                 ดังนั้น ถ้าถามแอดว่า ก่อนจะจดทะเบียนสมรส ควรจะต้องทำสัญญาก่อนสมรสไหม แอดยังจะแนะนำว่า ควรจะมีการทำสัญญาก่อนสมรส เนื่องจากจะได้มีการตกลงกันระหว่างสามี ภรรยาในเรื่องทรัพย์สิน และจะได้มีการทราบว่า ทรัพย์สินใดที่เป็นสินส่วนตัวของฝ่ายใดอย่างชัดเจน เพื่อที่จะไม่มีปัญหาในอนาคตว่า ทรัพย์สินใดเป็นสินส่วนตัวที่มีก่อนสมรสค่ะ #ทนายความเชียงใหม่ #ทนายเชียงใหม่ #ทนายความจังหวัดเชียงใหม่ #สํานักงานกฎหมายเชียงใหม่ #สํานักงานทนายความเชียงใหม่ #ChiangMaiLawyer #LawyerChiangMai #ExpatLawyerChiangMai #LegalConsultantChiangMai #LitigationChiangMai #ทนายเชียงใหม่ปรึกษาฟรี #ทนายความเชียงใหม่ปรึกษาฟรี #ปรึกษากฏหมายเชียงใหม่ #ที่ปรึกษากฏหมายเชียงใหม่ #ที่ปรึกษากฏหมายจังหวัดเชียงใหม่ #ปรึกษาทนายเชียงใหม่ #ปรึกษาทนายเชียงใหม่ฟรี #ปรึกษาคดีเชียงใหม่ #ปรึกษาคดีความเชียงใหม่ #ปรึกษาคดีความจังหวัดเชียงใหม่ #ทนายที่ดินเชียงใหม่ #ทนายอาสาศาลเชียงใหม่ #ทนายครอบครัวเชียงใหม่ […]

ระวัง เมียหลวงโพสต์ข้อความประจานเมียน้อย มีความผิดทางอาญา

ระวัง เมียหลวงโพสต์ข้อความประจานเมียน้อย มีความผิดทางอาญา โทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท . คนเราเวลารักกัน มีความสุขกันอยู่สองคน แต่เวลาที่หมดรักกัน กลับไม่ใช่เรื่องของคนสองคน คนบางคนเวลาที่เริ่มรู้สึกว่า สามีเปลี่ยนไป หรือสามีแอบมีเมียน้อยก็โกรธแค้น อยากแก้แค้น เอาคืนทั้งผัว และเมียน้อยให้ได้รับความอับอาย ไม่มีที่ยืนในสังคม เลยโพสต์ข้อความประจาน .             แต่การที่เมียหลวงเริ่มรู้สึกว่า สามีเปลี่ยนไป จึงโพสต์ข้อความประจานเมียน้อยนั้น ถึงแม้ว่า จะเป็นความจริง หรือไม่ใช่ความจริงก็ตาม ย่อมเป็นความผิดทางอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ดังเช่นในคำพิพากษาฎีกาที่ 472/2520 ที่จำเลยได้โพสต์ข้อความกล่าวหาใส่ความผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายเป็นเมียน้อย แต่ความจริงปรากฎว่า จริงๆแล้วผู้เสียหายไม่ใช่เมียน้อย จำเลยก็ย่อมมีความผิดทางอาญา .             ดังนั้น ก่อนที่จะโพสต์ข้อความประจานอะไรใคร ถึงแม้ว่า เรื่องที่โพสต์จะเป็นความจริงก็ตาม ตั้งสติก่อนจะโพสต์ค่ะ อย่าไปแก้แค้นใครโดยการโพสต์ข้อความประจานนะคะ . คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2520 การบรรยายฟ้องของโจทก์ว่า จำเลยได้บังอาจกล่าววาจาใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่ 3 ว่าผู้เสียหายเป็นเมียน้อยของ ผ. ซึ่งความจริงผู้เสียหายมิได้เป็นเมียน้อยของ ผ. แต่อย่างใดนั้น เป็นการบรรยายถึงการกระทำของจำเลยโดยกล่าวว่าผู้เสียหายเป็นเมียน้อยของ […]

ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่อยู่กินด้วยกัน จะฟ้องเรียกทรัพย์สินได้ไหม

จดทะเบียนสมรสกัน ถ้าความสัมพันธ์สิ้นสุดลง มีสิทธิฟ้องเรียกร้องขอแบ่งทรัพย์สินที่เป็นสินสมรสได้ แต่ถึงแม้ว่า จะไม่ได้จดทะเบียนกันก็ตาม แต่อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา ก็ยังคงมีสิทธิเรียกร้องทรัยพ์สินได้ ตามกฎหมาย โดยทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างที่อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยานั้นเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกัน จึงสามารถที่จะขอใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายขอแบ่งกรรมสิทธิ์ร่วมได้นะคะ .             คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2512 การที่ชายหญิงแต่งงานกัน โดยมิได้จดทะเบียนสมรส แม้ทางกฎหมายจะไม่ถือว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย ก็หากระทบกระเทือนถึงสิทธิในทรัพย์สินที่ชายหญิงจะพึงมีพึงได้ตามกฎหมายทั่วไปไม่ ในระหว่างที่ผู้ร้องกับจำเลย ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ตามพฤติการณ์ที่ผู้ร้องกับจำเลยปฏิบัติต่อกัน เช่นผู้ร้องไปทำมาค้าขายโดยตนเอง ส่วนจำเลยเลี้ยงบุตรเป็นแม่บ้าน และผู้ร้องออกเงินซื้อที่ดินปลูกตึกและสิ่งปลูกสร้างลงในที่ดิน แล้วผู้ร้องจำเลยกับบุตรก็เข้าอยู่ด้วยกันตลอดมา ก็เป็นการแสดงว่าผู้ร้องกับจำเลยได้ร่วมกันทำมาหากินแสวงหาทรัพย์สินมาเป็นสมบัติของผู้ร้องและจำเลยร่วมกัน ทั้งมีเจตนาที่จะเป็นเจ้าของในทรัพย์พิพาทโดยใช้เป็นที่อยู่อาศัยร่วมกันพฤติการณ์ดังกล่าวจึงเห็นได้ว่าบรรดาทรัพย์ที่ผู้ร้องหรือจำเลยหามาได้ ระหว่างนั้นแม้จะเป็นด้วยแรง หรือเงินของฝ่ายใดก็ไม่สำคัญ ก็ต้องถือว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยทั้งสองฝ่ายมีเจตนาที่จะเป็นเจ้าของร่วมกัน และเมื่อผู้ร้องกับจำเลยได้จดทะเบียนสมรสกันทรัพย์ทั้งหมดโดยเฉพาะทรัพย์พิพาทจึงเป็นสินบริคณห์ประเภทสินเดิมของผู้ร้องและจำเลยเท่าๆกัน #ทนายความเชียงใหม่ #ทนายเชียงใหม่ #ทนายความจังหวัดเชียงใหม่ #สํานักงานกฎหมายเชียงใหม่ #สํานักงานทนายความเชียงใหม่ #ChiangMaiLawyer #LawyerChiangMai #ExpatLawyerChiangMai #LegalConsultantChiangMai #LitigationChiangMai #ทนายเชียงใหม่ปรึกษาฟรี #ทนายความเชียงใหม่ปรึกษาฟรี #ปรึกษากฏหมายเชียงใหม่ #ที่ปรึกษากฏหมายเชียงใหม่ #ที่ปรึกษากฏหมายจังหวัดเชียงใหม่ #ปรึกษาทนายเชียงใหม่ #ปรึกษาทนายเชียงใหม่ฟรี #ปรึกษาคดีเชียงใหม่ #ปรึกษาคดีความเชียงใหม่ #ปรึกษาคดีความจังหวัดเชียงใหม่ #ทนายที่ดินเชียงใหม่ #ทนายอาสาศาลเชียงใหม่ #ทนายครอบครัวเชียงใหม่ #ทนายหย่าเชียงใหม่ […]

ถ้าเมาส์ว่าใครเจ้าชู้ ผิดหมิ่นประมาทไหม

1.- จำเลยที่ 1 (ลูกจ้าง) เป็นลูกจ้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. ส่วนโจทก์ เป็นผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. และจำเลยที่ 2 เป็นเพื่อนของจำเลยที่ 1 . 2.- ต่อมาจำเลยที่ 1 (ลูกจ้าง) ได้ลาออกจากงาน จำเลยที่ 2 (เป็นเพื่อนของจำเลยที่ 1) ก็ได้ถามว่า ทำไมถึงลาออกจากงานล่ะ จำเลยที่ 1 ก็ได้ตอบไปว่า “โจทก์จะซื้อแหวนให้จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จะผ่อนคืนราคาแหวนหรือไม่ก็ได้ โจทก์เคยให้กระเป๋าสตางค์ซึ่งมีเงินจำนวนหนึ่งอยู่ในกระเป๋า โจทก์ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้วให้เงิน 6,000 บาท แก่จำเลยที่ 1 โจทก์เคยจับมือจำเลยที่ 1 โจทก์เคยขับรถยนต์พาจำเลยที่ 1 ไปส่งที่บ้านของจำเลยที่ 1 หลายครั้ง การกระทำของโจทก์เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ต้องตัดสินใจลาออกจากการเป็นพนักงานของห้าง เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม และเพื่อมิให้เกิดความเสียหายขึ้นแก่จำเลยที่ 1” . 3.- คดีนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาว่า […]

ถ้าถูกข่มขืน หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ ควรทำไงดี

ไม่ว่าใครก็คงไม่ชอบการถูกบังคับ ขืนใจ แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาคคิด ถูกบังคับ ขืนใจ ถูกล่วงละเมิดทางเพศ สิ่งที่คุณควรจะทำ คือ มีสติ พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว วันนี้แอดจะขอพูดถึงกรณีเหตุการณ์ถ้าถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกข่มขืน ควรทำอย่างไรดีนะคะ เพราะว่า ในโรงเรียน หรือมหาลัยก็ไม่ได้มีการพูดถึง หรือสอนว่า ถ้าเกิดถูกข่มขืน ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ควรทำอย่างไรดี และแบบไหนที่เรียกว่า การถูกข่มขืน หรือการถูกล่วงละเมิดทางเพศ                 การข่มขืน ตามประมวลกฎหมายอาญาไม่ได้หมายความแต่เพียงอวัยวะเพศสอดใส่กับอวัยวะเพศเท่านั้น แต่ยังหมายความรวมถึง การใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่นอีกด้วยนะคะ                 การล่วงละเมิดทางเพศสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายรูปแบบ เช่น •              สัมผัสที่ไม่พึงประสงค์หรือการจูบ •              ข่มขู่หรือบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ หรือกิจกรรมทางเพศ •              การแสดงอวัยวะเพศ เช่น ‘เปิดโชว์ของลับ’ •              การถูกจับตามองจากคนที่ไม่ได้รับอนุญาตของคุณ เมื่อคุณเปลือยกายหรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเพศ •              การโพสต์รูปภาพทางเพศบนอินเทอร์เน็ตโดยปราศจากความยินยอม •              การถูกบังคับหรือข่มขู่โดยอีกคนที่จะดูหรือมีส่วนร่วมในสื่อลามก •              การใส่ยาในเครื่องดื่มหรือการใช้ยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดหรือทำลายให้เสียความสามารถของบุคคลในการเลือกเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์หรือกิจกรรมทางเพศของอีกคนหนึ่ง •              การมีเพศสัมพันธ์กับคนที่กำลังนอนหลับ […]

ด่าแบบไหน ที่ไม่ผิดหมิ่นประมาท

คดีนี้จำเลยเรียกโจทก์ว่า บักหลอย บักหน้าส้นตีน เป็นเพียงคำไม่เหมาะสมที่ภริยาจะใช้เรียกสามีต่อหน้าธารกำนัล ซึ่งเป็นข้อที่จำเลยจะต้องปรับปรุงตนไม่ใช้คำดังกล่าวกับสามีอีกต่อไป ยังไม่ถึงกับเป็นคำที่เหยียดหยามโจทก์อย่างร้ายแรง ส่วนที่จำเลยเรียกมารดาโจทก์ว่าอีแก่นั้น คำว่า “อี” เป็นคำประกอบหน้าชื่อผู้หญิงที่มีฐานะต่ำกว่า หรือเป็นคำใช้ประกอบหน้าชื่อผู้หญิงแสดงการดูหมิ่นเหยียดหยาม สำหรับคำว่า “แก่” มีความหมายว่ามีอายุมาก คำว่า “อีแก่” จึงเป็นคำไม่สุภาพและไม่เหมาะสมที่จำเลยในฐานะบุตรสะใภ้จะใช้เรียกมารดาของสามี แต่ยังไม่ถึงกับเป็นคำที่เหยียดหยามมารดาโจทก์อย่างร้ายแรง ยังไม่พอฟังว่า จำเลยเหยียดหยามโจทก์หรือบุพการีของโจทก์อย่างร้ายแรงตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (3 ) โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาให้โจทก์กับจำเลยหย่าขาดจากกัน จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์หย่าขาดจากจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 4 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังเป็นยุติว่า โจทก์กับจำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย มีบุตรด้วยกัน 2 คน จำเลยเคยร้องเรียนโจทก์เรื่องที่โจทก์มีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นต่อผู้บังคับบัญชาของโจทก์ จนกระทั่งผู้บังคับบัญชาเรียกโจทก์มาว่ากล่าวตักเตือนและได้ภาคทัณฑ์ไว้ตามบันทึก ก่อนหน้านั้นจำเลยเคยถูกนางอลิตภรณ์ ฟ้องร้องดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาท โจทก์ช่วยไกล่เกลี่ยจนนางอลิตภรณ์ยอมถอนคำร้องทุกข์ ปลายปี 2555 โจทก์ย้ายออกจากบ้านที่อยู่ร่วมกับจำเลยไปอยู่กับมารดาโจทก์จนปัจจุบัน วันที่ 18 มกราคม 2556 โจทก์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด […]

ความผิดฐานฉ้อโกง

ความผิดฐานฉ้อโกง ความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 (มาตรา 341-348) โดยมีองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง ดังนี้ 1. องค์ประกอบภายนอก ได้แก่ 1.1 ผู้กระทำ = ผู้ใด 1.2 การกระทำ = การหลอกลวง โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือ ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง 1.3 กรรม = ผู้อื่น 1.4 ผลของการกระทำ = ทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ และมีการโอนไปซึ่งทรัพย์สิน โดยผู้กระทำได้ทรัพย์สินไป หรือ มีการทำ/ถอน/ทำลายเอกสารสิทธิ 2. องค์ประกอบภายใน ได้แก่ 2.1 มีเจตนาธรรมดา = กระทำโดยเจตนา ได้แก่ กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำและในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น 2.2 มีเจตนาพิเศษโดยทุจริต = เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเอง หรือผู้อื่น ฉ้อโกง กับโทษตามกฎหมาย หลอกลวงเพื่อให้ได้ทรัพย์สินของคนอื่น มีโทษ จำคุกไม่เกิน […]