ทุกๆปัญหามีทางออกเสมอ – หาทางออกที่ดีที่สุด ปรึกษาทนายอลิสา

ระวัง เมียหลวงโพสต์ข้อความประจานเมียน้อย มีความผิดทางอาญา

ระวัง เมียหลวงโพสต์ข้อความประจานเมียน้อย มีความผิดทางอาญา โทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท . คนเราเวลารักกัน มีความสุขกันอยู่สองคน แต่เวลาที่หมดรักกัน กลับไม่ใช่เรื่องของคนสองคน คนบางคนเวลาที่เริ่มรู้สึกว่า สามีเปลี่ยนไป หรือสามีแอบมีเมียน้อยก็โกรธแค้น อยากแก้แค้น เอาคืนทั้งผัว และเมียน้อยให้ได้รับความอับอาย ไม่มีที่ยืนในสังคม เลยโพสต์ข้อความประจาน .             แต่การที่เมียหลวงเริ่มรู้สึกว่า สามีเปลี่ยนไป จึงโพสต์ข้อความประจานเมียน้อยนั้น ถึงแม้ว่า จะเป็นความจริง หรือไม่ใช่ความจริงก็ตาม ย่อมเป็นความผิดทางอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ดังเช่นในคำพิพากษาฎีกาที่ 472/2520 ที่จำเลยได้โพสต์ข้อความกล่าวหาใส่ความผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายเป็นเมียน้อย แต่ความจริงปรากฎว่า จริงๆแล้วผู้เสียหายไม่ใช่เมียน้อย จำเลยก็ย่อมมีความผิดทางอาญา .             ดังนั้น ก่อนที่จะโพสต์ข้อความประจานอะไรใคร ถึงแม้ว่า เรื่องที่โพสต์จะเป็นความจริงก็ตาม ตั้งสติก่อนจะโพสต์ค่ะ อย่าไปแก้แค้นใครโดยการโพสต์ข้อความประจานนะคะ . คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2520 การบรรยายฟ้องของโจทก์ว่า จำเลยได้บังอาจกล่าววาจาใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่ 3 ว่าผู้เสียหายเป็นเมียน้อยของ ผ. ซึ่งความจริงผู้เสียหายมิได้เป็นเมียน้อยของ ผ. แต่อย่างใดนั้น เป็นการบรรยายถึงการกระทำของจำเลยโดยกล่าวว่าผู้เสียหายเป็นเมียน้อยของ […]

ถ้าเมาส์ว่าใครเจ้าชู้ ผิดหมิ่นประมาทไหม

1.- จำเลยที่ 1 (ลูกจ้าง) เป็นลูกจ้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. ส่วนโจทก์ เป็นผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. และจำเลยที่ 2 เป็นเพื่อนของจำเลยที่ 1 . 2.- ต่อมาจำเลยที่ 1 (ลูกจ้าง) ได้ลาออกจากงาน จำเลยที่ 2 (เป็นเพื่อนของจำเลยที่ 1) ก็ได้ถามว่า ทำไมถึงลาออกจากงานล่ะ จำเลยที่ 1 ก็ได้ตอบไปว่า “โจทก์จะซื้อแหวนให้จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จะผ่อนคืนราคาแหวนหรือไม่ก็ได้ โจทก์เคยให้กระเป๋าสตางค์ซึ่งมีเงินจำนวนหนึ่งอยู่ในกระเป๋า โจทก์ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้วให้เงิน 6,000 บาท แก่จำเลยที่ 1 โจทก์เคยจับมือจำเลยที่ 1 โจทก์เคยขับรถยนต์พาจำเลยที่ 1 ไปส่งที่บ้านของจำเลยที่ 1 หลายครั้ง การกระทำของโจทก์เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ต้องตัดสินใจลาออกจากการเป็นพนักงานของห้าง เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม และเพื่อมิให้เกิดความเสียหายขึ้นแก่จำเลยที่ 1” . 3.- คดีนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาว่า […]

ด่าแบบไหน ที่ไม่ผิดหมิ่นประมาท

คดีนี้จำเลยเรียกโจทก์ว่า บักหลอย บักหน้าส้นตีน เป็นเพียงคำไม่เหมาะสมที่ภริยาจะใช้เรียกสามีต่อหน้าธารกำนัล ซึ่งเป็นข้อที่จำเลยจะต้องปรับปรุงตนไม่ใช้คำดังกล่าวกับสามีอีกต่อไป ยังไม่ถึงกับเป็นคำที่เหยียดหยามโจทก์อย่างร้ายแรง ส่วนที่จำเลยเรียกมารดาโจทก์ว่าอีแก่นั้น คำว่า “อี” เป็นคำประกอบหน้าชื่อผู้หญิงที่มีฐานะต่ำกว่า หรือเป็นคำใช้ประกอบหน้าชื่อผู้หญิงแสดงการดูหมิ่นเหยียดหยาม สำหรับคำว่า “แก่” มีความหมายว่ามีอายุมาก คำว่า “อีแก่” จึงเป็นคำไม่สุภาพและไม่เหมาะสมที่จำเลยในฐานะบุตรสะใภ้จะใช้เรียกมารดาของสามี แต่ยังไม่ถึงกับเป็นคำที่เหยียดหยามมารดาโจทก์อย่างร้ายแรง ยังไม่พอฟังว่า จำเลยเหยียดหยามโจทก์หรือบุพการีของโจทก์อย่างร้ายแรงตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (3 ) โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาให้โจทก์กับจำเลยหย่าขาดจากกัน จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์หย่าขาดจากจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 4 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังเป็นยุติว่า โจทก์กับจำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย มีบุตรด้วยกัน 2 คน จำเลยเคยร้องเรียนโจทก์เรื่องที่โจทก์มีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นต่อผู้บังคับบัญชาของโจทก์ จนกระทั่งผู้บังคับบัญชาเรียกโจทก์มาว่ากล่าวตักเตือนและได้ภาคทัณฑ์ไว้ตามบันทึก ก่อนหน้านั้นจำเลยเคยถูกนางอลิตภรณ์ ฟ้องร้องดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาท โจทก์ช่วยไกล่เกลี่ยจนนางอลิตภรณ์ยอมถอนคำร้องทุกข์ ปลายปี 2555 โจทก์ย้ายออกจากบ้านที่อยู่ร่วมกับจำเลยไปอยู่กับมารดาโจทก์จนปัจจุบัน วันที่ 18 มกราคม 2556 โจทก์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด […]